เรื่องจริงสุดรันทดของ “ชาวจีน” เผยเบื้องลึก “ค่านิยมสังคม” เหตุใด “ผู้หญิง” ต้องแต่งงานก่อนอายุ 25 ??

การแต่งงาน” เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่สำหรับบางประเทศ “ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงาน” กลับถูกมองเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ถูกมองว่าเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มให้สมบูรณ์ ซึ่งประเทศ “จีน” คือประเทศหนึ่งที่เรากำลังกล่าวอยู่ในขณะนี้

สะท้อนค่านิยมการแต่งงานของหญิงชาวจีน ที่ยิ่งมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องทนแบกรับความกดดันเรื่องการมีครอบครัวหรือสามีมากขึ้นตามไปด้วย

 

หญิงสาวชาวจีนที่มีอายุเกิน 25 ปีและยังไม่แต่งงาน จะถูกเรียกว่า “Sheng Nu” แปลว่า “ผู้หญิงที่เหลือ” ซึ่งจะถูกสังคมมองว่าเป็นตัวประหลาด หลายครั้งก็ซุบซิบนินทาและเหยียดหยามดูหมิ่น ตามปกติแล้วชาวจีนจะเตรียมความพร้อมให้ลูกสาวของตนแต่งงานออกเรือนเมื่อถึงวัยที่เหมาะสม แต่ถ้าพวกเธอไม่แต่งงานเมื่อถึงวัยที่ “ถูกต้อง” ครอบครัวก็จะมองว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย

 

นั่นคือสิ่งที่ทำให้ “ตลาดการแต่งงาน” ได้ก่อตัวขึ้นและเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศจีน โดยพ่อแม่จะเปิดเผยประวัติของลูกชายและลูกสาวเพื่อตามหาคนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอายุ หน้าที่การงาน เงินเดือน หรือความสามารถด้านต่างๆ บอกคุณสมบัติเพื่อชักจูงผู้คนไม่ต่างอะไรกับการค้าขาย

 

การถูกจับคู่ดูตัวจึงกลายเป็นสิ่งที่ทำมาตั้งแต่อดีตกาล เพราะค่านิยมที่สำคัญของชาวจีนคือ การการเคารพผู้อาวุโส ดังนั้นลูกหลานทุกคนจะต้องเชื่อฟังและยอมรับในสิ่งที่พ่อแม่เลือกสรรมาให้นั่นเอง ด้านพ่อแม่บางคนจำเป็นต้องรีบตามหาผู้ชายที่จะยอมรับในตัวลูกสาวได้ เพราะแม้ว่าเธอจะมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมแต่มีหน้าตาที่ธรรมดา




และนั่นทำให้จำนวนประชากรชายที่มีมากกว่าและค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่จึงทำให้ผู้หญิงกลายเป็นผู้ที่ถูกเลือกและถูกทิ้ง…

 

ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือสิ่งเหล่านั้นทำให้ ผู้หญิงหลายคนรู้สึกกดดันและรู้สึกผิดที่ยังโสดจนทำให้พ่อแม่อับอาย แม้ว่าสิ่งที่พวกเธอต้องการคือความรัก แต่บางครั้งความรักก็ไม่ได้มาพร้อมกับความเหมาะสม

 

ผู้หญิงบางคนจึงต้องยอมไปที่ตลาดการแต่งงานด้วยตัวเอง เพื่อทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสบายใจ ทั้งๆ ที่บางครั้งพวกเธอยอมรับว่ามีความสุขกับชีวิตโสดที่เป็นอิสระมากกว่า

ขณะที่หลายคนยอมรับว่าพวกเธอไม่คิดว่าตนคือผู้หญิงที่เหลืออยู่หรือถูกทิ้ง แต่เป็นผู้หญิงที่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ อย่างเช่นเธอคนนี้ที่มีความคิดว่า “ฉันไม่อยากแต่งงานเพียงเพราะจำเป็นต้องแต่งงาน เพราะมันจะทำให้ชีวิตฉันไม่มีความสุข”

 

พ่อแม่บางคนก็เริ่มเห็นด้วยกับพวกเธอ แต่ก็ยังคงเป็นส่วนน้อย “ลูกสาวของฉันเป็นคนสวย ผู้หญิงที่เหลือ ก็ควรจะภูมิใจในตัวเอง”

 

เพราะการเป็นโสดไม่ได้แปลว่าพวกเธอคือ “ของเหลือ” แต่พวกเธอแข็งแกร่ง สง่างาม และมั่นใจในแบบที่เป็น การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่กำหนดความสุขในชีวิต ทุกคนสามารถมีชีวิตที่งดงามและยืดหยัดได้ด้วยตัวของตัวเอง

Leave a Reply