5 สัตว์เทพเจ้า ตามความเชื่อของชาวจีน

หลังจากอ่านเรื่องราวความเชื่อของชาวจีนกันเกี่ยวกับการเชิดสิงโตและมังกรกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ สัตว์เทพเจ้า ที่อยู่ในตำนานความเชื่อของชาวจีนกันบ้างดีกว่า ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงไม่แปลกที่จะมีตำนานเล่าขาลกันมาอยู่มากมาย ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เทพเจ้าต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่น่าสนใจ พร้อมแล้วก็ ไปพบกับพวกเขากันเลย

 

1. มังกร

ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ หนึ่งในสัตว์ในตำนานที่ชาวจีนนับถือกันมากที่สุด ถึงแม้จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมังกรแตกต่างกันไปอยู่ทั่วโลก แต่มังกรของจีนก็ยังครองอัตลักษณ์และความน่าเกรงขามไว้ได้ไม่เสื่อมคลายมาหลายสหัสวรรษ ชาวจีนเชื่อว่า มังกร เป็นสัตว์ที่มากด้วยอิทธิฤทธิ์และทรงอำนาจมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งปวง มีอำนาจควบคุมฟ้าฝน และมหาสมทุร ด้วยความยิ่งใหญ่และสง่างาม มังกรจึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิมาแต่โบราณ โดยเชื่อว่า มังกรมีความเป็นมิตรกับมนุษย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์

 



ภาพวาดมังกรจีนโบราณ

ลักษณะภายนอกของมังกร เกิดจากสัตว์ 9 ชนิดผสมกัน ได้แก่ คอยาวเหมือนงู, เขามากจากกวาง, หัวมาจากอูฐ, ดวงตาจากปีศาจ, ท้องจากหอยแครงยักษ์, เกล็ดจากปลาตะเพียนหรือปลากะโห้, เล็บคมเหมือนอินทรีย์หรือเหยี่ยว, ฝ่าเท้าจากเสือ และหูจากวัว ภายในปากจะมีมุกอัคนี มุกวิเศษที่ใช้เรียกลมฝน และแสดงพลังอำนาจในทางอื่นๆ ได้
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

การนำสัญลักษณ์มังกรมาใช้นั้น หากเป็นของจักพรรดิ มังกรจะต้องมี 5 เล็บ ของขุนนางจะมี  4 เล็บ และสำหรับสามัญชนผจะมีเพียง  3 เล็บ

 

2. กิเลน

ถ้าเป็นตัวผู้จะเรียกว่า “กิ” ตัวเมียเรียกว่า “เลน” ชาวจีนเชื่อกันว่ากิเลนเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย และเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี ปรากฏให้เห็นที่ใดแสดงว่าจะมีผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองนั้นให้อยู่เย็นเป็นสุข

รูปปั้นกิเลนในสมัยราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่ ณ พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง

ลักษณะภายนอกของกิเลนเกิดจากการผสมผสานระหว่างสัตว์หลายชนิด โดยมีรูปร่างเหมือนกับกวางแต่มีเขาเดียว มีหางเหมือนวัว หัวเป็นมังกร และเท้ามีลักษณะเป็นกีบเหมือนม้า

เชื่อว่ากิเลนนี้เอง ที่เป็นต้นแบบของม้านิลมังกร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของกวีเอกสุนทรภู่

3. เต่ามังกร

อีกหนึ่งสัตว์เทพเจ้าที่คนไทยคุ้นเคย เต่ามังกร ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง อายุยืน และสุขภาพดี รวมไปถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้าย ตามลักษณะทางกายภาพของเต่าที่มีอายุยืนยาว และมีกระดองอันแข็งแกร่งคอยคุ้มกันจากภยันตรายทั้งปวง

รูปปั้นเต่ามังกรที่ตั้งอยู่ในพระราชวังต้องห้าม

และด้วยลักษณะทางกายภาพของเต่าที่อายุยืนและมีกระดองคอยคุ้มภัยนี้เอง เมื่อมารวมกับมังกรซึ่งถือเป็นสัตว์ที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งปวง จึงทำให้เต่ามังกรกลายเป็นหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ 4 ชนิดตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ซึ่งได้แก่ มังกร กิเลน เต่ามังกร และหงส์

โดยลักษณะของเต่ามังกรนั้น จะเหมือนกับเต่าทั่วไป แต่มีหัวเป็นมังกร เพราะเชื่อกันว่า เต่ามังกรเป็นบุตรลำดับที่ 9 ของพญามังกรนั่นเอง

4. หงส์

หงส์ตามความเชื่อแบบจีนนี้ไม่ใช่หงส์แบบที่เราคุ้นเคย แต่เป็นสัตว์เทพเจ้าที่เกิดมาจากการรวมตัวกันของนกหลากหลายสายพันธุ์ และเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี 5 ประการ คือ คุณธรรม ความยุติธรรม ศีลธรรม มนุษยธรรม และสัจธรรม

ลักษณะของหงส์ตามความเชื่อแบบจีน

ลักษณะทางกายภาพของหงส์ประกอบขึ้นจากสัตว์ปีก 5 ชนิด ได้แก่ หัวจากไก่ฟ้า, ปากจากนกแก้ว, ลำตัวจากเป็ดแมนดาริน, ขาจากนกกระสา และหางจากนกยูง

5. ปี่เซียะ

ถ้าเป็นตัวผู้จะเรียกว่า “ปี่” ตัวเมียจะเรียกว่า “เซียะ” ในบางพื้นที่จะเรียกปี่เซียะว่า “เทียนลก” เชื่อกันว่าปี่เซียะมีพลังในการกำราบสิ่งชั่วร้าย และเป็นสัญลักษณ์ของการค้าขายร่ำรวย

ปี่เซียะต้องบูชาเป็นคู่

ลักษณะทางกายภาพของปี่เซียะคือ เป็นสัตว์ 4 เท้าที่มีรูปร่างและเขาคล้ายกวาง แต่มีใบหน้า หัว และขาคล้ายกับสิงห์ มีปีกเหมือนนก สันหลังคล้ายปลา ส่วนหางคล้ายแมว ท้องและส่วนหัวบางส่วนคล้ายกับมังกร

เนื่องจากปี่เซียะเป็นสัตว์ที่กินเก่งแต่ไม่มีรูทวาร จึงไม่มีการขับถ่าย นั่นทำให้ปี่เซียะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคัั่งร่ำรวย เปรียบเสมือนเงินทองที่ไหลเข้าแต่ไม่ไหลออก ตามคาสิโนที่เชื่อหลักฮวงจุ้ยแบบจีนจึงมักมีรูปปั้นปี่เซียะวางอยู่ด้านหน้า เพราะเชื่อว่าจะช่วยกักเก็บทรัพย์ไว้ได้ โดยการบูชาปี่เซียะนั้นควรบูชาเป็นคู่ (หมายถึงปี่เซียะ ไม่ใช่ผู้ที่บูชา)

 

ที่มา:https://goo.gl/XTw4QQ

Leave a Reply