3 แหล่งในประเทศจีนที่คนไทยนิยมเดินทางไปขอบุตร

3 แหล่งในประเทศจีนที่คนไทยนิยมเดินทางไปขอบุตร “พระโพธิสัตว์กวนอิม” เกาะผู่ถัวซาน ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด นิยมขอบุตรชาย รองลงมาคือพระสังคจายวัดหลิงซาน ส่วนคนแต้จิ๋วเชื่อศาลเจ้าพ่อเสือบันดาลพรสำเร็จ!

เรื่องการมี “บุตรยาก” ปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายครอบครัวกำลังประสบโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในเมืองหลวงที่มีชีวิตต้องอยู่กับความเครียดและสภาวะแวดล้อมเป็นพิษอยู่รอบตัว ประกอบกับค่านิยมการแต่งงานที่ช้าลง ทำให้คนยิ่งมีลูกได้ยากขึ้น และเมื่อแต่งงานหลายปีผ่านไปยังไม่มีลูก หลายคนก็ต้องหันไปใช้วิธี “ขอลูก”กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ซึ่งประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการเดินทางไปเพื่อขอลูกที่นิยมกันมากประเทศหนึ่ง

 

กวนอิมเกาะผู่ถัวซานที่ 1 นิยมขอลูก

 

สุพัฒนา คุ้มรุ่งโรจน์ ผู้ทำทัวร์จีนในลักษณะฟรีแลนด์ มามากกว่า 20 ปี กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำทัวร์พากรุ๊ปคนไทยไปจีนนั้น พบว่า มีบางคนที่เดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการไปขอบุตร หรือขอลูกด้วย โดยสถานที่ที่คนไทยมีความเชื่อและความศรัทธาไปขอลูกกันนั้น ที่มีชื่อเสียงมากมีอยู่ 2 ที่ด้วยกัน ได้แก่

 

  1. พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่วัดผู่จี้ (ผู่จี๋ซื่อ) บนเกาะผู่โถวซาน ในทะเลจีนตะวันออก ขึ้นกับมณฑลเจ๋อเจียง

 

โดยเกาะผู่โถวซานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสี่ของพุทธคีรี (ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาพุทธ) ของจีน เชื่อกันว่าองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมท่านทรงบรรลุธรรมที่นี่ และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์เจ้าแม่กวนอิม โดยมีการเล่าต่อกันมาจนกลายเป็นประวัติของวัดด้วยว่า วัดผู่จี้ เป็นวัดที่ เจ้าแม่กวนอิมไม่ยอมไป

 

เรื่องมีอยู่ว่าในสมัยราชวงศ์ถัง ประมาณปีค.ศ. 847 – 859 ได้มีพระภิกษุญี่ปุ่นรูปหนึ่งเดินทางไปยังเขาอู๋ไถซาน ซึ่งก็เป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีจีนและได้อัญเชิญองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อนำกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อเรือล่องมาถึงบริเวณที่ตั้งวัดแห่งนี้ ได้เกิดพายุใหญ่ จึงนำเรือเข้าหลบในถ้ำใกล้ๆ เมื่อลมฝนสงบก็นำเรือออก ก็เกิดลมพายุอีก เป็นอย่างนี้อยู่ 3 ครั้ง ภิกษุรูปนั้นจึงตัดสินใจไม่นำองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไปที่ญี่ปุ่น ชาวบ้านแถบนี้จึงสร้างวัดเล็กๆ ขึ้น ก็คือวัดผู่จี้ปัจจุบัน และตั้งชื่อว่า“วัดเจ้าแม่กวนอิมไม่ยอมไป”

 

องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เป็นองค์ประธานนั้นเป็นปางประทานพร แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และความเก่าแก่ จึงได้รับความนิยมว่าเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในแผ่นดินจีน ซึ่งภายในวัดจะมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมมากถึง 33 ปาง อยู่ในวิหารประธาน (ต้าสงเป่าเตี้ยน) รวมทั้งปางประทานบุตร ที่เชื่อกันว่าการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในปางนี้จะทำให้มีความสมหวังในการมีลูกด้วย

 

ตำนานปางประทานบุตร

 

โดยองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรนั้นก็มีเรื่องที่เล่าต่อกันมาเหมือนกัน โดยเมื่อนานมาแล้ว ที่มณฑลฮกเกี้ยน มีวัดลัทธิเต๋าอยู่แห่งหนึ่ง เต๋าซือในวัดได้คิดจะทำยาอายุวัฒนะขึ้นมา ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วจะอายุยืนและไม่แก่เฒ่า แต่จะต้องใช้หัวใจของเด็กผู้ชายจำนวน 100 ลูกมาผสมปรุงเป็นยา เต๋าซือจึงลงจากเขาและจับเด็กชายจำนวน 100 คนมาขังไว้ในห้องมืดเพื่อเตรียมนำหัวใจมาปรุงยา

 

ในคืนนั้นเององค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งกำลังเสด็จข้ามสะพานเมืองฉวนโจวที่สร้างเชื่อมไปสู่เกาะผู่โถวซาน ได้ยินเสียงร้องของเด็ก ๆเหล่านั้น เลยลงจากดอกบัวมาดู และได้ให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านั้น ภายหลังพระโพธิสัตว์กวนอิมจะพาเด็กๆไปส่งบ้าน แต่เด็กเหล่านั้นยังเล็กเกินกว่าที่จะรู้ว่าบ้านตัวเองอยู่ที่ไหน จึงนำเด็กๆเหล่านั้นไปให้เจ้าเมืองฉวนโจว และชาวบ้านผู้ไม่มีบุตรได้รับไปเลี้ยงดู

 

“เรื่องเล่าเหล่านี้ จากปากต่อปาก นานวันเข้าก็มีการผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นความเชื่อที่ว่า หากใครต้องการมีบุตรมักนิยมไปไหว้ขอจากองค์เจ้าแม่กวนอิมที่นี่” สุพัฒนา กล่าว

 

สำหรับการเดินทางไปขอพรที่วัดแห่งนี้ จะต้องนั่งรถมาที่ท่าเรือเมืองหนิงโป แล้วต่อเรือด่วนประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อข้ามไปสู่เกาะผู่โถวซาน หรืออีกทางหนึ่งก็ข้ามฝั่งที่ท่าเรือหลูเฉ่ากั่งซึ่งห่างจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ต้องนั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วต่อเรือเจทฟอยด์ข้ามไปที่เกาะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

 

จับพุง-เด็กพระสังคจายหลิงซาน

 

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 2.ซึ่งนิยมไปขอบุตรคือ วัดหลิงซาน ตั้งอยู่เมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซี ที่มีพระพุทธรูปองค์ยืนสูงที่สุดในประเทศจีน ความสูง 88 เมตร ซึ่งเดินทางไม่ลำบากเหมือนเกาะผู่ถัวซาน

 

วัดนี้มีขนาดใหญ่ มีความสวยงามมาก ด้านในเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อโตหลิงซาน หรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีความสูงถึง 88 เมตร ด้านล่างมีจำลองรูปฝ่ามือขององค์หลวงพ่อโตขนาดเท่าองค์ใหญ่ไว้ให้คนกราบไหว้บูชาด้วย ซึ่งในวัดนี้มีพระสังคจายซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพแห่งโชคลาภ ความร่ำรวย แต่พระสังคจายองค์นี้จะมีเด็กปีนป่ายล้อมรอบตัวด้วย ทำให้เชื่อกันว่า ถ้าใครได้ไปบูชา จับพุง จับตัวเด็ก และทำการเวียนเทียน 3 รอบจะทำให้ได้สมหวังในการมีลูกด้วย

 

ขอลูกชาย-องค์กวนอิมเกาะผู่ถัวซาน

 

ด้านเดชธิชัย เลียนทอง เจ้าของบริษัทสตาร์ดัสท์ทราเวล จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านทัวร์จีน เล่าว่าที่ผ่านมานั้นมีประสบการณ์พาลูกทัวร์ไปขอลูก 2 ครอบครัวด้วยกัน โดยทั้ง 2 ครอบครัวนั้น แต่งงานมากว่า 10 ปีและไม่มีลูก ได้เดินทางไปนมัสการองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมขอลูกที่เกาะผู่ถัวซาน ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดพระโพธิสัตว์กวนอิม ลูกค้าทั้ง 2 ครอบครัวก็กลับมาแล้วมีบุตรชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์

 

“ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไร รายแรกไม่ได้เล่าให้ผมฟังก่อนว่าจะไปขอลูก แต่กลับมาถึงเล่าให้ฟังว่าตั้งใจไปขอลูก รายที่ 2 บอกตรงๆ ว่าจะไปขอลูก และกลับมาก็ตั้งท้อง และคลอดเป็นเด็กผู้ชายทั้ง 2 ครอบครัว รายแรกขณะนี้ลูกชายอายุ 14 ปีแล้ว ส่วนรายที่ 2 ลูกชายอายุ 5-6 ปี ซึ่งภายหลังเขาได้เดินทางกลับไปแก้บนด้วย”

 

คนแต้จิ๋วศรัทธาศาลเจ้าพ่อเสือ

 

ปริญดา อริยวงศานุกูล บริษัทเค.ซี.แทรเวิล เซอร์วิส จำกัด ผู้ทำทัวร์จีนมากว่า 30 ปี เปิดเผยสถานที่ที่คนไทยนิยมไปขอลูกอีกแห่งหนึ่งซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 3 คือ เจ้าพ่อเสือ ในเขตมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งจะอยู่ห่างจากเมืองเซินเจิ้นไปประมาณ 100 กว่ากิโล เจ้าพ่อเสือที่นี่คนจีนเรียกว่า “เหี่ยงบูซัว ฮุกโจ้ว” มีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีประวัติหลายร้อยปี ในสมัยโบราณ คนในมณฑลนี้ เชื่อกันว่าหากอยากสมหวัง มักจะเดินทางไปขอพรจากเจ้าพ่อเสือ ซึ่งการเดินทางในสมัยนั้นแม้จะต้องเดินเท้า และบางรายต้องเดินทางเป็นเดือน แต่ก็ได้รับความนิยมไปบูชากันแบบปากต่อปากมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในพรที่นิยมไปขอกันคือ การขอลูกด้วย รวมทั้งมีชื่อด้านเซียมซีที่แม่นยำมาก

 

จากประสบการณ์ คนไทยเชื้อสายแต้จิ๋วนิยมไปไหว้บูชากันมาก หลังจากเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ซัวเถา ในการขอลูก แม้ตัวพ่อแม่ไม่ได้เดินทางไปเอง แต่ก็นิยมให้ปู่ย่าตายายไปขอพรให้แทน ซึ่งความเชื่อนี้ได้ส่งผลให้คนไทยนิยมไปขอลูกกับศาลเจ้าพ่อเสือ โดยเฉพาะศาลเจ้าพ่อเสือที่บริเวณเสาชิงช้า กรุงเทพฯ ด้วย เนื่องจากเป็นเจ้าพ่อเสือที่อัญเชิญมาจากศาลเจ้าพ่อเสือที่กวางตุ้ง ซึ่งจะมีลูกทัวร์ซึ่งเดินทางไปขอบุตรที่มณฑลกวางตุ้งเกือบทุกปี

 

อย่างไรก็ดี เรื่องของการมีบุตรยากนั้น แม้หลายคนจะพยายามใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้บุตรมาเป็นมิ่งขวัญของครอบครัว แต่ทุกวันนี้พบว่า แม้จะต้องเสียเงินหลายแสนบาทแต่ก็ยังไม่สำเร็จเป็นจำนวนไม่น้อย ความเชื่อด้านการขอบุตรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แม้จะเป็นเพียงความเชื่อ แต่ความเชื่อดังกล่าวต้องอิงคำโบราณที่ว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” เพราะมีคนที่ประสบความสำเร็จจากการขอพรมาแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องของความมหัศจรรย์ล้วนๆ!

ที่มา:https://goo.gl/PqaH1o

 

 

 

Leave a Reply