ไทยเปิดประเทศมาได้สองวันแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมาน้อยจนเหงา ก็หวังว่าอีกสองสัปดาห์จะมากันมากขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่า 5 เดือนจากนี้ จนถึงมีนาคมปีหน้า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ตํ่ากว่า 60,000 ล้านบาท และหวังว่าปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมา 10 ล้านคน ท่ามกลางการแข่งกันเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในอาเซียนและทั่วโลก

ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว จะมีเงินทุนฟื้นฟูกิจการรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ หลังจากปิดกิจการไปสองปีจนหมดเนื้อหมดตัว

คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ซีอีโอและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึง การปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารว่า ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ไปแล้วกว่า 1.2 ล้านราย มียอดสินเชื่อภายใต้โครงการช่วยเหลือตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีก่อน รวม 830,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีสินเชื่อที่ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มขึ้น 460,000 ล้านบาท หรือ 20% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 16% ซึ่งมาจากมาตรการพักหนี้เอสเอ็มอีและรายย่อยในพื้นที่สีแดง 124,000 ล้านบาท

ตัวเลขหนี้และลูกหนี้เหล่านี้เป็นของ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพียงธนาคารเดียวเท่านั้น ถ้ารวมลูกหนี้ทั้งระบบจะเป็นเท่าไหร่ ผมไม่อยากคิด แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคิด

ตุลาคมที่ผ่านมา ดร.สันติธาร เสถียรไทย ประธานทีมนักเศรษฐศาสตร์ และกรรมการผู้จัดการ Sea Group ได้เปิดเผยผลสำรวจ กลุ่มดิจิทัล เจเนอเรชัน อายุ 16-50 ปี 80,000 คน จาก 6 ประเทศอาเซียนทางออนไลน์พบว่า 70% ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้และเงินออมลดลง และ 40% บอกว่าลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (MSMEs) โดย กลุ่มร้านอาหารและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักที่สุด คิดเป็น 78% ของผู้ตอบแบบสอบถาม และ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบด้านการเงินมากที่สุด รองลงมาคือ ความเครียด

คุณเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ให้สัมภาษณ์ ฐานเศรษฐกิจ ว่า การเปิดประเทศยังมีความน่าห่วงในหลายเรื่อง เฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับการเปิดประเทศ เวลานี้ในข้อเท็จจริง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินได้จริง เพราะกลไกยังต้องผ่านสถาบันการเงินในระบบเดิมอยู่ ผู้ที่มีสายป่านยาวที่เป็นเชนใหญ่ยังพอไปไหว แม้จะค่อยๆฟื้นตัว แต่ร้านที่ไม่มีเงินและติดลบยังไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ แม้ลูกค้าจะกลับมาแล้วก็ตาม

นี่คือ ความจริงอันเจ็บปวด ของ ธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก MSMEs ที่เป็น เส้นเลือดฝอยของเศรษฐกิจไทย แต่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลและช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างจริงจัง ถ้าประเทศขาดเส้นเลือดฝอยเหล่านี้ เส้นเลือดใหญ่ก็คงไปได้ยากเหมือนกัน

คุณเกรียงไกร ได้ตอกยํ้าถึงแนวทางที่ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตตํ่ากว่าศักยภาพ จากรายได้ครัวเรือนที่ลดลง และการปิดกิจการของธุรกิจรายย่อย ส่งผลให้เกิดหลุมรายได้ที่ขาดหายไปกว่า 2.6 ล้านล้านบาท คุณเกรียงไกรบอกว่า ตอนนี้เรากู้มาแล้ว 1 ล้านล้านบาท บวกกับ 5 แสนล้านบาทในรอบสอง ยังขาดอีก 1.1 ล้านล้านบาทที่จะเอามาเติม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีต่อไป

การเป็น “ผู้นำประเทศ” ต้องมี วิสัยทัศน์ที่กว้างและไกล ไม่ใช่แคบแค่ตรงหน้าซ้ายหันขวาหัน วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากอนาคตประเทศไทยไว้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียว ผมเลยนำคำเตือนผู้เชี่ยวชาญมา “เตือนสตินายกฯ” เอาไว้ตรงนี้ เอสเอ็มอีตาย ประเทศก็ตาย อุ้มคนรวยไว้ไม่กี่คนช่วยอะไรไม่ได้.

cr. ไทยรัฐ

Leave a Reply