อาหารไหว้เจ้ากับความเชื่อของคนจีน

วันตรุษจีน หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในนามของวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีนในแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลกเทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ ๑ เดือน ๑ ของปีตามจันทรคติและสิ้นสุดในวันที่ ๑๕ (ปี ๒๕๕๙ นี้ ตรงกับวันที่ ๘ กุมภาพันธ์) ซึ่งจะเป็นเทศกาลประดับโคมไฟ

ในช่วงของเทศกาลตรุษจีน จะมีการเฉลิมฉลองไปทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนที่มีขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ตรุษจีนถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และอาจจะรวมไปถึงการฉลองปีใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆ อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน แต่สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นนั้นก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองที่ต่างกันไป

 

การจัดของไหว้ในวันตรุษจีน จะมีการจัดแบบชุดเล็กและชุดใหญ่ ลักษณะที่ต่างกัน คือ

1.ชุดใหญ่ จะนิยมใช้เป็นตัวเลข ๕ คือ มีของคาว ๕ อย่าง เรียกว่า “โหงวแซ” ประกอบด้วย หมู,ไก่, ตับ, ปลา, และกุ้งมังกร แต่เนื่องจากกุ้งมังกรนั้นแพงและหาไม่ง่าย จึงนิยมไหว้เป็ดหรือปลาหมึกแห้งแทน ของหวาน ๕ อย่าง เรียกว่า “โหงวเปี้ย” อาจเป็น ซาลาเปาไส้หวาน, ขนมไข่, ขนมถ้วยฟู, ขนมกุยช่าย และขนมจันอับ ผลไม้ ๕ อย่าง เรียกว่า “โหงวก้วย”

2.ชุดเล็ก จะนิยมใช้เป็นเลข ๓ คือ มีของคาว ๓ อย่างเรียกว่า “ซาแซ” ของหวาน ๓ อย่าง เรียกว่า “ซาเปี้ย” ผลไม้ ๓ อย่าง เรียกว่า “ซาก้วย” หรือถ้ามีอย่างเดียวก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน

 

 

ผลไม้ที่ผู้คนนิยมใช้ในการไหว้กันมากที่สุด จะมีอยู่ ๔ อย่าง   เนื่องจากเป็นผลไม้ที่สามารถหาได้ตามท้องตลาด

๑. ส้ม คนจีนแต้จิ๋วเรียกแบบชาวบ้านว่า กา แต่ส้มมีอีกคำเรียกว่า ไต้กิก ไต้ แปลว่า ใหญ่ กิก
แปลว่า มงคล ไต้กิก จึงแปลว่า มหาสิริมงคล แต่ถ้าแปลง่าย ๆ แบบชาวบ้านก็คือโชคดี

๒. กล้วย จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า เก็ง-เจีย จะเล่นเสียงว่า เก็ง-เจีย-เก็ง-ไล้ แปลว่า ดึงโชคเข้ามากับอีกความหมายว่ากล้วย มีผลมากมายแถมเป็นเครือ จึงเป็นมงคลให้ลูกหลานมาก ๆ มีวงศ์วานว่านเครือสืบสกุล




๓. องุ่น จีนแต้จิ๋วเรียกว่า พู่-ท้อ พู่ ก็คือ งอก หรืองอกงาม ท้อ ก็คือ พ้องเสียงกับลูกท้อ ที่เป็นผลไม้มงคลอายุยืน

๔. สับปะรด คนจีนแต้จิ๋วเรียก อั้งไล้ แปลว่า เรียกสีแดงมา สีแดงเป็นสีของโชค ก็ประมาณว่าเรียกโชคเข้ามา คนจีนทางใต้จะนิยมไหว้สับปะรดมาก

อาหารไหว้เจ้า ในวันงานฉลองตรุษจีนจะเป็นอาหารที่คนกินเยอะมากกว่าวันไหน ๆ ในปี อาหารชนิดต่าง ๆ ที่ผู้คนปฏิบัติกันจนเป็นประเพณีจะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง อาจจะรวมไปถึงคนรู้จักที่เสียชีวิตไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่าง ๆ ที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่าง ๆ มีความหมายที่เป็นมงคลในตัวของมัน ตัวอย่างเช่น เม็ดบัว มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย, เกาลัด มีความหมายถึง เงิน, สาหร่ายดำ คำของมันออกเสียงคล้ายความร่ำรวย, เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง คำของมันออกเสียงคล้ายเต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข, หน่อไม้ คำของมันออกเสียงคล้ายกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรืองและความสุข, เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี , สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งความโชคดี, จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาหร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้ จะนำมาซึ่งความร่ำรวย, ปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดมสมบรูณ์, เส้นหมี่ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวขนมต้ม หมายถึงบรรพชนอวยพร คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข

หมายเหตุ เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์

อาหารแต่ละอย่างจะมีความเชื่อของชาวจีนรวมอยู่ด้วย ซึ่งส่วนมากจะหมายถึงสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตและครอบครัว รวมไปถึงหน้าที่การงานของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน แทนความอุดมสมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว ทางตอนใต้ของจีน อาหารที่นิยมรับประทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ในทางเหนือหมั่นโถและติ่มซำจะเป็นอาหารที่นิยมรับประทานมากที่สุด อาหารจำนวนมากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน จากข้อความข้างต้นเราจะเห็นได้ว่า ของไหว้เจ้าทุกอย่างมีความหมายในตัว จะมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ตามความเชื่อของชาวจีน

ขนมไหว้เจ้าที่ได้รับความนิยมมากอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเราหลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ ขนมเข่งและขนมเทียน ชาวจีนส่วนมากจะใช้ขนมสองอย่างนี้ในการไหว้บรรพบุรุษช่วงวันตรุษจีนและวันสารท หลายคนอาจจะสงสัยว่าขนมของไหว้วันตรุษจีน มีความหมายว่าอะไร ทำไมถึงใช้ขนมนี้ในการไหว้ เรามีความหมายของขนมไหว้เจ้าส่วนหนึ่งมาฝาก อย่างเช่น ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่นราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์, ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู, จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป, ขนมสาลี่ หมายถึง รุ่งเรือง เฟื่องฟู, ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต, ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว หมายถึง ไหว้เพื่อให้เปาไช้* แปลว่าห่อโชค, ขนมเทียน เป็นขนมที่ปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดิน ดัดแปลงมาจากขนมใส่ไส้ ซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นของไทย จากขนมใส่ไส้ที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิ เปลี่ยนมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน หมายถึง ความหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์ ซาลาเปา เล่นเฉพาะคำว่า เปา แปลว่าห่อ ไหว้ซาลาเปาเพื่อให้เปาไช้ แปลว่า ห่อโชค ห่อเงินห่อทองมาให้ลูกหลาน

ของไหว้เจ้าแห่งโชคลาภแบ่งเป็น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าวคาว กับข้าวมังสวิรัติ อย่างละ ๓ หรือ ๕ ชนิด พร้อมสุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งจะมีเสียงเรียกพ้องกับเสียงของคำมงคล
สิ่งสำคัญสำหรับเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ น้ำชา สุรา อาหารมังสวิรัติ อาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ กระดาษเงินกระดาษทอง และ ทรัพย์สินกระดา กอจี๊ หรือ จี๊จุ้ย กิมจั๊ว หรือ หงิ่งจั๊ว กิมเต้า ค้อชี้เต้าหรือ หงิ่งเต้า กิมเตี๊ยวหรือกิมตุ้ง กิมฮวย ตั่วกิม หรือ ค้อซี เทียนเฒ่าจี้หรือเทียนเถ่าจี้ เพ้า ดอกไม้ธูป เทียน

ในส่วนของกระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้า บางคนนิยมใส่ “โหงวจี้” สำหรับปักธูป จะประกอบไปด้วย เมล็ด ๕ อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถั่วดำ และเชื้อแป้ง เพราะถือว่าเมล็ดทั้งห้า คือบ่อเกิดของการเจริญเติบโต ทำให้การไหว้เจ้ามีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แต่การใช้โหงวจี้ปักธูป จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะแต่ในบ้าน ถ้าเป็นการไหว้นอกบ้าน จะต้องใช้ข้าวสารหรือทราย เพราะเชื้อแป้งเมื่อถูกความชื้น จะทำให้แข็งตัวแล้วปักธูปไม่ลง และเมื่อไหว้เจ้าเสร็จเราก็จะเผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นการปิดท้ายรายการ

 

สุดท้ายนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าของไหว้เจ้าที่เราไหว้เสร็จแล้วรับประทานต่อได้หรือไม่ เรื่องนี้อาจารย์บรรจง บินกาซัน ได้ให้สัมภาษณ์สดกับสำนักข่าวไทยมุสลิมไว้ว่า

“ของไหว้เจ้านั้นกินไม่ได้อยู่แล้ว มันมีหุกุ่มอยู่ในอัลกุรอานมชัดเจนอยู่แล้ว ของเซ่นไหว้อื่น ๆ มันชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งเราจะกินไม่ได้อยู่แล้ว หากเพื่อนเอาของไหว้เจ้ามาให้ ซึ่งมันชัดเจนอยู่แล้ว มันอยู่ในสัตว์ที่เชือดโดยไม่กล่าวนามอัลลอฮฺ และอาหารที่นำไปเซ่นไหว้สิ่งอื่น ถึงแม้จะเป็นผลไม้ก็ตาม เพราะจะเป็นการไปกินของเหลือเดนจากเจ้า แล้วก็ไปยอมรับพิธีกรรม”

Leave a Reply