‘คริปโตอสังหาฯ’แค่กิมมิคหรือของจริง?

แม้ต้องเผชิญผลกระทบจากโควิด2 ระลอกแรก แต่ยอดขายอสังหาฯยังเติบโต เป็นผลมาจากยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ของโครงการสร้างแล้วเสร็จ

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 18% เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39%

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รายได้และผลกำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด และโครงการบ้านที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจากลูกค้าทั้งไทย และต่างประเทศ อาทิ โครงการโนเบิล บี19 สุขุมวิท, โครงการโนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33, โครงการนิว โนเบิล แจ้งวัฒนะ, โครงการโนเบิล แอมเบียนส์ สุขุมวิท 42 ,โครงการโนเบิล เพลินจิต เป็นต้น รวมทั้งการขายของโครงการโนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี
“ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่บริษัทฯยังคงเปิดโครงการต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ และถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง เนื่องจากการทำแผนการตลาดเชิงรุกในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลายในระดับราคาที่เหมาะสม ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลได้อย่างลงตัว”
นอกจากนี้ บริษัทมียอด Backlog อยู่ที่ 12,884 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้ภายใน 3 ปีข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.98 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2563 สะท้อนจากสภาพคล่องที่สูงขึ้นและกำไรสะสมที่เพิ่มมากขึ้นจากกำไรจากการดำเนินงาน  นายธงชัย  กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ในไตรมาสองกลุ่มลูกค้าต่างชาติยังคงให้ความสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วงไตรมาสแรก ปีนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 45% ของยอดขายรวมจากทุกผู้ประกอบการในการขายคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑลดังนั้นจึงเชื่อว่าหากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายโดยเฉพาะในเรื่องการฉีดวัคซีนก็จะสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคการลงทุนของกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและการเปิดประเทศให้กับลูกค้าต่างชาติ
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส1/2564 ทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ  เป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถ สร้างยอดขายรวม 5,700 ล้านบาท  เติบโต 188% เทียบปีก่อนซึ่ง  ประกอบด้วย ยอดขายแนวราบ 4,606 ล้านบาท เติบโต 123%  และยอดขายคอนโดฯ 1,094 ล้านบาท เติบโต 1381%

ในส่วนการเติบโตของยอดขายคอนโดมาจากโครงการระดับลักชัวรี ราคามากกว่า 300,000 บาท/ตารางเมตร  พร้อมกับโครงการคอนโดฯเปิดใหม่ “สโคป พร้อมศรี” บนทำเลสุขุมวิท 49 ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดจองแล้ว 45 %ขณะที่รายได้รวมสามารถทำได้ 3,965 ล้านบาท  เติบโต 20%  โดยมาจากรายได้จากการดำเนินงานแบ่งเป็นรายได้จากการขาย 95% และรายได้จากการเช่าและบริการ 5 % พร้อมกำไรสุทธิ  417 ล้านบาท เติบโต 39%

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจอยู่ที่ 1,254 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 92%  ซึ่งเป็นโครงการที่ทยอยโอนอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการเมทริส พระราม 9-รามคำแหง, เมทริส ลาดพร้าว, มารุ เอกมัย 2 และมารุ ลาดพร้าว 15

“ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของทุกบริษัท กับการเผชิญกับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิดระลอก 2 โดยเฉพาะในช่วงต้นไตรมาส บริษัทได้ปรับตัวทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้สะดวก ผ่านช่องทางออนไลน์ ประกอบกับการรักษากระแสเงินสดของบริษัทให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์”
สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 2 ปีนี้ตลาดยังคงเผชิญกับสถานการณ์โควิดระลอกที่ 3 และอาจเกิดภาวะผิดปกติครั้งใหม่ (New Abnormal คล้ายคลึงกับสถานการณ์ช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ที่เกิดสงครามราคามากกว่าระดับปกติ (Abnormal Price War) และเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคใช้เวลาพิจารณาตัดสินใจซื้อมากกว่าปกติ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 3,869 ล้านบาท เติบโตขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา  และเติบโตขึ้น 35% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 825 ล้านบาท เติบโตขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเติบโตขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า
“แม้ในช่วงต้นไตรมาส 1/2564 ภาพรวมเศรษฐกิจจะได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 2 แต่เรายังคงปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดให้ทำธุรกรรมกับเราได้ผ่านหลากหลายช่องทาง การออกแคมเปญทางการตลาดใหม่ๆ ทำให้สามารถระบายสินค้ารอการขาย หรือ Inventory สร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ๆ และรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นายพีระพงศ์ กล่าว

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์  จำกัด กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 10,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า   ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 6,820 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิกว่า 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 618 ล้านบาท เท่ากับ 127%

นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่าไตรมาสแรก ปี 2564 บริษัท มียอดโอน 3,059 ล้านบาท และมีสัดส่วนยอดโอนจากลูกค้าชาวต่างประเทศใกล้เคียงจากปีก่อนที่ระดับ 21% ขณะที่มียอดขายรวม 3,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 17% ที่ระดับ 3,393 ล้านบาท จากโครงการพร้อมอยู่ที่ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์  จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2564มีรายได้  1,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 582 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 98.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 591 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250 ล้านบาท หรือ 361.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 69 ล้านบาท เป็นการเติบโตแบบสวนกระแสท่ามกลางโควิด
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ที่สร้างรายได้จากการขายบ้าน มียอด พรีเซลของไตรมาสนี้อยู่ที่ 8,255 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 24% ทั้งนี้ การปฏิเสธสินเชื่อและยอดยกเลิกจากลูกค้า (Home Loan & Customer Rejection Rate) ยังคงอยู่ในอัตราสูง คิดเป็น51% ทำให้บันทึกรายได้จากการขายในรอบ 3 เดือนอยู่ที่จำนวน 3,163 ล้านบาท

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2564 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,547.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 366.4 ล้านบาท จำนวน 1,181 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 322.3% มีกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 139.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 199%
“ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทมีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นกว่า 322% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่บริษัทใช้กลยุทธ์ใหม่ในการเร่งยอดขายโครงการปัจจุบัน แม้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 3 เรามั่นใจว่าในที่สุดแล้วตลาดจะสามารถปรับตัวได้ อีกทั้งยังมีการเร่งฉีดวัคซีนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวได้ในเร็วๆ นี้”
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 ทำรายได้ 720.6 ล้านบาท เติบโต 41.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 508.4 ล้านบาท แม้ยังต้องเผชิญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ เล็กน้อยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2564 ว่า บริษัท มีรายได้รวม 189.74  ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตสวนกระแสเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 161.85 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 11.51 ล้านบาท

“ตัวเลขผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกเติบโตสูงสุดอีกไตรมาสนั้น มาจากความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคาที่จับต้องได้ (Affordable) ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ระดับราคา 2-5 ล้านบาท”